ดร.สมเกียรติ เปิดหน้าสู้บนเวที กปปส.

คืนวันที่ 23 มกราคม 2557 อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล ขึ้นเวทีกปปส.ที่อโศก

แกเล่าให้ฟังเรื่องการนำเสนอให้มี R&D ในชินคอร์ป แต่คุณทักษิณเห็นว่าไม่จำเป็น แกสรุปเลยว่าชินคอร์ปไม่มีทางเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมทาง IT อย่าง Samsung ได้ แกสรุปว่า "คุณทักษิณเป็นแค่คนที่เงินมากธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น"

แทรกแซงพยายามจะเอาเคเบิลทีวีที่อสมท.เป็นเจ้าของสัมปทานด้วยวิธีการล็อบบี้หรือแม้จะเป็นประธานอสมท.ด้วยตัวเอง สุดท้าย เอาเฉลิมมาเป็นผอ. สุดท้ายได้ของที่ต้องการไป

อ.สมเกียรติทึ่งในความสามารถในการทุจริตแบบไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายของคุณทักษิณ

ปรับเปลี่ยนกฎหมายการถือครองหุ้นในบริษัทโทรคมนาคมจากสัดส่วน 75 ต่อ 25 เป็น 51 ต่อ 49 ยอมรอด้วยการซื้อตัว สว. สส. อยู่ 3 ปี กฎหมายผ่าน 2 วัน ขายหุ้นชินคอร์ปให้เทมาเซกได้เงินเพิ่มขึ้นเกือบ 4 หมื่นล้านบาท

เรื่องแทรกแซงสื่อที่อ.ได้เล่าบนเวที อยากรู้ว่าคนไอทีวีที่ตอนนี้กระสานซ่านเซ็นไปในโทรทัศน์หลายช่อง ได้รู้พฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่ หรือว่านี่คือสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

อ. เล่าพฤติกรรมในเบื้องต้นของระบอบทักษิณหลายอย่าง เป็นประสบการณ์ตรงของท่าน

และนำเสนอแนวทางการต่อต้านรัฐบาลด้วยวิธีการสันติอหิงสาต้องประกอบไปด้วย 3 สิ่งคือ

1. อหิงสาทางกาย คือ การอารยะขัดขืน
2. อหิงสาทางวาจา คือ การใช้ถ้อยคำอย่างผู้มีอารยะ ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย สิ่งนี้คือสิ่งที่ผมเห็นตรงกับอ.คือบนเวทีปราศรัยต้องลดใช้คำปราศรัยแบบจงเกลียดจงชังฝั่งตรงข้ามหรือที่เรียกว่า hate speech
3. อหิงสาทางใจ คือ การเกลียดกับสิ่งที่เขาปฏิบัติ แต่ต้องรักเขา หลังจากการต่อต้านเรียบร้อยแล้ว เราต้องอยู่ร่วมกับเขาได้ และเราต้องรักเขา ผมบอกเลย ว่าเป็นไปไม่ได้ครับ ความเกลียดชังของเราฝังรากลึกเกินกว่าจะเยียวยาได้แล้ว

อ.สมเกียรติถูกต่อว่าจากทุกฝ่ายครับ หาว่าแกเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวเข้าข้าง เดี๋ยวเปลี่ยนฝั่ง ก่อนหน้านี้ผมเคยรู้สึกแปลกๆ กับแกในช่วงที่มีการพยายามแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญว่าด้วยเรื่องที่มาสว. ที่อ.เห็นด้วยกับการที่สว. และสส. จะเป็นญาติกันและสามารถสังกัดพรรคการเมืองได้ ซึ่งผมเห็นว่าเป็นสิ่งที่ทำให้กระบวนการตรวจสอบการทำงานของสส.ไม่ตรงไปตรงมา

แกเคยต่อว่าหลวงปู่พุทธอิสระอยากให้ท่านสึกออกมาต่อต้านรัฐบาล ผมเห็นด้วยเพราะสิ่งที่หลวงปู่ทำตอนนี้เทหมดหน้าตักเกินไป และไม่สมควรจะทำพฤติกรรมเหล่านั้นด้วยการนุ่งห่มจีวร

หลังได้ฟังปราศรัยของแกแล้ว ผมค่อนข้างเชื่อว่าแกต้องการการปฏิรูปอย่างจริงจัง และต้องการอนาคตที่สดใสเพื่อลูกหลาน

ผมรักแกมากขึ้นอ่ะ บ่องตง :)