เปิดใจกับความคิดเห็นต่าง

"ระบบวิธีคิดคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขยาก"

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการชะลอการออกอากาศในเทปสุดท้ายที่ว่าด้วยเรื่องของกษัตริย์ภายใต้ระบบประชาธิปไตย ของรายการตอบโจทย์ประเทศไทยที่ออกอากาศผ่านโทรทัศน์สาธารณะไทย ได้ให้แง่คิดที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นกระจกส่องระบบวิธีคิดของคนไทยหลากหลายฝ่าย ที่ว่า ประเทศนี้ยังไม่ได้ให้เกียรติต่อระบบวิธีคิดอื่นๆ ที่ตนเองคิดว่าไม่เหมาะสม หากแต่ยอมที่ทำตัวเองให้ตกต่ำลงด้วยการขู่เข็ญด้วยทางใดก็ทางหนึ่งต่อผู้ที่คิดเห็นไม่ตรงกับตนเอง

ความเห็นส่วนตัวคิดว่าการหยิบเอาประเด็นอ่อนไหวที่เคยซุกซ่อนอยู่ใต้พรมขึ้นมาถกกันเป็นเรื่องที่ควรทำ แต่ต้องทำอย่างให้เกียรติ เปิดใจกว้างไม่ตัดสินความคิดของผู้อื่นบนฐานความรู้ความคิดของตนเองเพียงอย่างเดียว ผมพยายามฟังอย่างคนที่รู้น้อยมากๆ กับระบบการเมืองนี้ หากแต่รักในหลวงสุดหัวใจบนเหตุผลของการได้เห็นภาพของการประกอบพระราชกรณียกิจมากมายมหาศาลที่ใครก็เถียงไม่ได้ ท่านไม่จำเป็นต้องทำต้องเหนื่อยเท่าที่เราเห็น ผมชื่นชมบูชาพระองค์ท่าน เพราะท่านทำงานอย่างหนัก และทรงเป็นแบบอย่างของผู้สอนที่ดีคือสอนโดยพูดให้น้อยที่สุด แต่กระทำเป็นตัวอย่าง

ผมอยากเสนอว่าการดีเบตในรายการลักษณะนี้ โดยเฉพาะในประเทศนี้ ต้องเกิดจากความเห็นต่างอย่างสุดขั้วเท่านั้น อย่าให้เกิดการดีเบต ที่ผู้เข้าร่วมรายการสองฝ่ายดันมาบอกว่า ผมเห็นด้วยกับฝ่ายตรงข้ามในทุกประเด็น หรือ ที่อ.พูดมาผมเห็นด้วยเกือบทั้งหมด ยกตัวอย่างในกรณีของอ.สศจ. ยกข้อเสนอ 8 ข้อ ที่ในความส่วนตัวของผมรับไม่ได้ของท่านขี้นมา ฝั่งตรงข้ามไม่ควรเริ่มต้นประโยคด้วยด้วยคำว่า "ผมเห็นด้วยหมดทุกข้อ" แต่ต้องหาคนที่พร้อมที่จะหักล้างทั้ง 8 ข้อนั้นต่างหาก เมื่อรายการไม่สามารถทำให้เกิดความสมดุลในการนำเสนอข้อมูลของผู้เข้าร่วมรายการได้ รายการก็ต้องยอมรับว่าลักษณะการนำเสนอแบบนี้กลายเป็นรายการพยายามชักจูงและได้เผลอเปิดพืันที่ให้กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมากจนเกินไป

ดังนั้นเมื่อฝ่ายหนึ่งเป็นลิเบอรัล อีกฝั่งก็ต้องรอยัลตี้สุดๆ เท่านั้น นี่คือสิ่งที่ผมเห็นว่าเป็นคุณเป็นโทษที่เกิดขึ้นจากการนำเสนอ หากแต่ขอสนับสนุนลักษณะรายการในลักษณะนี้ครับ ผมเบื่อรายการทอล์คเบาๆ ที่เล่นแต่ประเด็นเบาๆ เช่นรายการผี เล่นเกมส์ทายดวง คุยกับดารา พาไปเที่ยว หรืออะไรแบบนั้น

รายการลักษณะนี้ไม่มีให้ดูในช่วงเวลาไพร์มไทม์บนฟรีทีวีเลย น่าเสียดาย

ผมชอบแววตา ลักษณะการถามแบบตรงประเด็น และไล่ให้คนที่เข้าใจอย่างถ่องแท้เท่านั้นที่จะตอบอย่างมีเหตุมีผลได้ของพิธีกร และยังสังเกตได้ถึงความพยายามเป็นกลางอย่างดีที่สุดของเขา คือเมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมา เขาจะทำตัวเป็นฝ่ายตรงข้าม ซักไซ้ไล่เลียงด้วยเสียงและการวางตัวจนผู้ตอบคำถามต้องครองสติและอารมณ์อย่างดีจึงจะตอบได้อย่างที่ไม่เสียเหลี่ยม (นึกไม่ออกว่าถ้าเขาได้มีโอกาสสัมภาษณ์นายกฯ ท่านจะอยู่ในสภาพใด)

ดังนั้นจึงรู้สึกเสียดายรายการที่คนๆ นี้ทำหน้าที่ หากแต่ถ้ารายการนี้ได้อยู่ต่อไป หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะนำเอาพิธีกรที่ทำหน้าที่แทนคนดูมาทำแทน (ผอ.สถานีก็ยืนยันแล้วว่ารายการนี้้จะมีอยู่ต่อไป)

และขอชื่นชมที่กล้าหาญเปิดพืันที่ให้ความคิดเห็นต่างของรายการ ที่พยายามที่จะเปลี่ยนความคิดแบบสุดขั้วของใครสักคนหนึ่ง ให้ลองเปิดใจฟังความข้างอื่นอย่างจริงใจดูบ้าง แต่ก็อย่างที่เห็นผลกระทบคำวิพากย์ในเชิงลบออกมามากกว่าเชิงดี ดังนั้นจึงยังเป็นเรื่องที่ยากมากในตอนนี้ ที่รายการพยายามจะเปลี่ยนระบบวิธีคิดของประชาชนผู้เสพข้อมูล

แต่ผมเชื่อว่าเรา ต้อง อยู่ร่วมกันตลอดไปต่อจากนี้ ไม่มีทางที่จะฟาดฟันจนอีกฝ่ายล้มหายตายจากไปได้ หนทางเดียวที่เราจะอยู่รอดร่วมกันคือการเดินไปด้วยกันอย่างเข้าใจเหตุผลวิธีคิดของอีกฝ่าย และถ้าไม่มีการเปิดพืันที่บนดิน อีกฝั่งก็ต้องเล่นใต้ดิน นำเสนอข้อมูลในถิ่นที่อยู่ของตัวเองเท่านั้น ความคิดขัดแย้งก็จะคงอยู่ของมันแบบนั้นตลอดไป ไม่ได้รับการแก้ไขเสียที

"ทั้งหมดนี้อยู่บนพื้ันฐานของความเห็นส่วนตัวนะครับ"