ST: เมื่อต้องเป็นผู้นำ
เมื่อวานพอเรียนเอสดีจบ ก็มานั่งโปรเจ็คท์รอ
เตรียมตัวไปเรียน speaking ตอนตอนสี่โมงครึ่ง รอนานนะนั่น
กะว่าเรียนเสร็จจะไปกินข้าว แต่เอ๊ะทำไมกูหิว แต่ไม่อยากกินอ่ะ
คืออยากกิน แต่ไม่รู้ว่าจะกินอะไรมากกว่า
นั่งเขียน proposal นั่งแก้นั่งพิมพ์ไป
ได้เห็นผลสัมฤทธิ์ จากการไปฝึกงานละตอนไปฝึกกูได้ใช้ MS Visio อย่างคล่องแคล่ว
กูได้เขียนชาร์ตอะไรต่อมิอะไรมากมาย นอกจากพิมพ์งานและถ่ายเอกสาร
งานทำชาร์ตนี่แหละที่ได้ทำแทบทุกวัน
พอสี่โมงครึ่งก็ไปเรียน speaking เรียนเรื่องการพูดในที่ฃุมชนด้วยภาษาอังกฤษ
โอ้ววว ท่าทางคนสอนต้องเป็นฝรั่งแน่ ๆ ที่ไหนได้เป็นอาจารย์สาวม.เราซะงั้น
แต่จารย์ก็สอนดีนะ สำเนียงจารย์ก็ดีมากด้วย
แต่ว่าตอนที่เราได้พูดนี่สิ คิดว่าน่าจะพูดได้ดีกว่าที่พูดไป แต่ความตื่นเต้นทำให้พูดได้ไม่ดีเท่าไหร่
ก่อนจบคาบมีการนำเสนอการขายเป็นภาษาอังกฤษ ขายกระดาษ AA เป็นภาษาอังกฤษ
น้อง ๆ ที่มาพูดน่ารักดี แต่มีคนนึงชื่อน้องชูใจ (ชื่อเหมือนพี่เลยน้อง 555)
แต่ออกมารู้สึกว่าเธอจะอยู่ปีสี่เหมือนกัน อ้าวซะงั้น :blob65:
เรียนเสร็จกินข้าวแล้วก็มาทำงานต่อ
กะเอาไว้ว่าต้องส่ง proposal ผ่าน mail ให้ได้ภายในคืนนั้น
เขียนเพิ่มเติมเต็มที่ แล้วก็เสร็จได้ด้วยดี
ดีของเราแต่ไม่รู้ว่าดีที่เท่าไหร่ในใจจารย์นะ
พอเขียนเสร็จเท่านั้นแหละ แนนก็มา
มาได้เวลาพอดี กะลังหาคนทวนให้ซะหน่อยว่าเขียนเป็นไงมั่ง
พอแนนอ่านเสร็จก็มานั่งคุยเรื่องงานกัน
ต้องแสดงความเป็นผู้นำกลุ่มให้ได้ ถามเค้าว่าสิ่งที่ให้ทำให้ศึกษานั้นจะทำได้หรือไม่
คำตอบก็บอกว่าไม่แน่ใจ ก็เลยบอกไปว่าไอ้ตัวเราก็เหมือนกันไม่มั่นใจเลยว่าจะทำได้หรือไม่
"ไม่ต้องกลัว" :usa1:
แต่มั่นใจว่าถ้าพยายามอย่างเต็มที่แล้วคิดว่าต้องทำได้
ไม่เป็นไรต้องผ่านไปได้ด้วยดีแน่ ๆ
การที่ต้องเป็นผุ้นำ ไม่ใช่เรื่องที่ถนัดนัก แต่ถึงเวลานี้ต้องพยายามทำให้ได้
และก็ไม่อยากเป็นผู้นำที่เอาแต่นำด้วย
การทำงานเป็นคู่อย่างนี้ก็ทำให้ได้รู้อะไรในตัวเค้าได้เหมือนกัน
ถึงเวลาการตัดสินใจ การเลือกที่จะทำอะไรอย่างไรก็ต้องผ่านการคิดไตร่ตรองและได้คำตอบที่เหมือนกันทั้งคู่ก่อน
ถึงเวลานี้ถามว่ากลัวหรือไม่กับการที่ต้องทำอะไรที่ไม่ถนัด
ก็ต้องบอกว่าถึงตอนนี้ไม่กลัวแล้ว มีแต่ต้อง "พุ่งชนกับมัน" เท่านั้น
อยากบอกว่าการเขียนโปรแกรมไม่ใช่เรื่องที่ถนัดนักหรอก
การที่เรียนผ่านมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะว่าอาศัยการเอาตัวรอดผ่านมาเป็นเทอม ๆ
แต่ถ้าถามว่าคิดผิดหรือไม่ที่มาเลือกเรียนในสาขานี้ ต้องบอกว่า "ไม่"
เพราะนั่นผ่านการตัดสินใจที่คิดว่าได้ผ่านกระบวนการทางสมองมาเป็นอย่างดี
ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีก็แล้วกัน :blob42:
ตอนนี้ไม่มีความทุกข์เลย
ไม่มีเรื่องที่ทำให้ต้องถอนหายใจ
มีแต่เรื่องงานเท่านั้น พอส่งงานไปก็คิดเรื่องเล่น
พอมีงานก็คิดถึงแต่งาน่ เฮ้อ เครียดเหมือนกันนะ
ฉันมีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่อย่างงี้จิง :blob75:
lastupdated : 2004-09-10 23:39:18
เตรียมตัวไปเรียน speaking ตอนตอนสี่โมงครึ่ง รอนานนะนั่น
กะว่าเรียนเสร็จจะไปกินข้าว แต่เอ๊ะทำไมกูหิว แต่ไม่อยากกินอ่ะ
คืออยากกิน แต่ไม่รู้ว่าจะกินอะไรมากกว่า
นั่งเขียน proposal นั่งแก้นั่งพิมพ์ไป
ได้เห็นผลสัมฤทธิ์ จากการไปฝึกงานละตอนไปฝึกกูได้ใช้ MS Visio อย่างคล่องแคล่ว
กูได้เขียนชาร์ตอะไรต่อมิอะไรมากมาย นอกจากพิมพ์งานและถ่ายเอกสาร
งานทำชาร์ตนี่แหละที่ได้ทำแทบทุกวัน
พอสี่โมงครึ่งก็ไปเรียน speaking เรียนเรื่องการพูดในที่ฃุมชนด้วยภาษาอังกฤษ
โอ้ววว ท่าทางคนสอนต้องเป็นฝรั่งแน่ ๆ ที่ไหนได้เป็นอาจารย์สาวม.เราซะงั้น
แต่จารย์ก็สอนดีนะ สำเนียงจารย์ก็ดีมากด้วย
แต่ว่าตอนที่เราได้พูดนี่สิ คิดว่าน่าจะพูดได้ดีกว่าที่พูดไป แต่ความตื่นเต้นทำให้พูดได้ไม่ดีเท่าไหร่
ก่อนจบคาบมีการนำเสนอการขายเป็นภาษาอังกฤษ ขายกระดาษ AA เป็นภาษาอังกฤษ
น้อง ๆ ที่มาพูดน่ารักดี แต่มีคนนึงชื่อน้องชูใจ (ชื่อเหมือนพี่เลยน้อง 555)
แต่ออกมารู้สึกว่าเธอจะอยู่ปีสี่เหมือนกัน อ้าวซะงั้น :blob65:
เรียนเสร็จกินข้าวแล้วก็มาทำงานต่อ
กะเอาไว้ว่าต้องส่ง proposal ผ่าน mail ให้ได้ภายในคืนนั้น
เขียนเพิ่มเติมเต็มที่ แล้วก็เสร็จได้ด้วยดี
ดีของเราแต่ไม่รู้ว่าดีที่เท่าไหร่ในใจจารย์นะ
พอเขียนเสร็จเท่านั้นแหละ แนนก็มา
มาได้เวลาพอดี กะลังหาคนทวนให้ซะหน่อยว่าเขียนเป็นไงมั่ง
พอแนนอ่านเสร็จก็มานั่งคุยเรื่องงานกัน
ต้องแสดงความเป็นผู้นำกลุ่มให้ได้ ถามเค้าว่าสิ่งที่ให้ทำให้ศึกษานั้นจะทำได้หรือไม่
คำตอบก็บอกว่าไม่แน่ใจ ก็เลยบอกไปว่าไอ้ตัวเราก็เหมือนกันไม่มั่นใจเลยว่าจะทำได้หรือไม่
"ไม่ต้องกลัว" :usa1:
แต่มั่นใจว่าถ้าพยายามอย่างเต็มที่แล้วคิดว่าต้องทำได้
ไม่เป็นไรต้องผ่านไปได้ด้วยดีแน่ ๆ
การที่ต้องเป็นผุ้นำ ไม่ใช่เรื่องที่ถนัดนัก แต่ถึงเวลานี้ต้องพยายามทำให้ได้
และก็ไม่อยากเป็นผู้นำที่เอาแต่นำด้วย
การทำงานเป็นคู่อย่างนี้ก็ทำให้ได้รู้อะไรในตัวเค้าได้เหมือนกัน
ถึงเวลาการตัดสินใจ การเลือกที่จะทำอะไรอย่างไรก็ต้องผ่านการคิดไตร่ตรองและได้คำตอบที่เหมือนกันทั้งคู่ก่อน
ถึงเวลานี้ถามว่ากลัวหรือไม่กับการที่ต้องทำอะไรที่ไม่ถนัด
ก็ต้องบอกว่าถึงตอนนี้ไม่กลัวแล้ว มีแต่ต้อง "พุ่งชนกับมัน" เท่านั้น
อยากบอกว่าการเขียนโปรแกรมไม่ใช่เรื่องที่ถนัดนักหรอก
การที่เรียนผ่านมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะว่าอาศัยการเอาตัวรอดผ่านมาเป็นเทอม ๆ
แต่ถ้าถามว่าคิดผิดหรือไม่ที่มาเลือกเรียนในสาขานี้ ต้องบอกว่า "ไม่"
เพราะนั่นผ่านการตัดสินใจที่คิดว่าได้ผ่านกระบวนการทางสมองมาเป็นอย่างดี
ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีก็แล้วกัน :blob42:
ตอนนี้ไม่มีความทุกข์เลย
ไม่มีเรื่องที่ทำให้ต้องถอนหายใจ
มีแต่เรื่องงานเท่านั้น พอส่งงานไปก็คิดเรื่องเล่น
พอมีงานก็คิดถึงแต่งาน่ เฮ้อ เครียดเหมือนกันนะ
ฉันมีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่อย่างงี้จิง :blob75:
Comments